วันที่ 28 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ พรมแดนเชียงของ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตรวตคนเข้าเมืองเชียงของ จังหวัดเชียงราย ยังคงตรวจเข้มการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางด้วยรถยนต์มาจากมณฑลยูนนานทางถนนอาร์สามเอ ผ่านแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 มายัง อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่า และตั้งจุดคัดกรองโรคติดต่อ หากพบว่ามีบุคคลต้องสงสัยที่ป่วยเป็นไข้ หรือเครื่องตรวจวัดความร้อนตรวจพบ
จากตัวเลข ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาเป็นต้นมามีชาวจีนเข้ามารวมกันจำนวน 863 คน โดยวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมามีชาวจีนเดินทางเข้ามาจำนวน 133 คน วันที่ 27 มกราคม 2563 พบยอดผู้เดินทางเข้ามาจำนวน 150 คน ซึ่งทางด่านพรมแดนได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่าทั้งหมดมีอาการปกติจึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพและสวมใส่หน้ากากก่อนให้เดินทางเข้ามาได้ตามปกติ
ขณะที่ นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ จ.เชียงราย ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบสถานการณ์หลังจากยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางเข้าออกประเทศไทย ทางด้านด่านอำเภอเชียงของ อย่างต่อเนื่อง และวางมาตราการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิมของทางประเทศไทย
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข จ.เชียงราย ได้มีการตั้งจุดคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ท่าเรือพาณิชย์แม่น้ำโขง อ.เชียงแสน และที่ด่านพรมแดนชียงของ
รายงานข่าวแจ้งว่า การเดินเรือในแม่น้ำโขง พบว่าได้รับผลกระทบจาก ไวรัสโคโรนา เช่นเดียวกัน โดยนอกจากทางการประเทศเมียนมาจะปิดด่านเมืองลาติดต่อกับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน แล้วที่เขตปกครองพิเศษที่ 4 ของเมียนมายังคุมเข้มบริเวณท่าเรือสบโหลยซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของเขตดังกล่าวในแม่น้ำโขง โดยมีการห้ามไม่ให้ชาวจีนที่มาจากมณฑลหูเป่ยโดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่นที่เป็นศูนย์กลางของโรคได้ขึ้นฝั่งเมียนมาด้วย.
